สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เตรียมส่ง 3 ผู้ฝึกสอนทั้งยิมศิลป์ และ ยิมลีลา เข้าร่วมอบรมขั้นสูงสุดในต้นเดือน พ.ย. และ เดือน ธ.ค. หวังผลเลิศกลับมาถ่ายทอดให้กับผู้ฝึกสอนระดับสโมสร และ ทีมชาติไทย เพื่อสร้างสายเลือดใหม่กลับมายิ่งใหญ่อีกหนในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย หลังจากที่คณะกรรมการชุดใหม่ภายใต้การบริหารงานของ น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคม , พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และ ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคม และผู้จัดการทีมยิมนาสติกทีมชาติไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ส่งนักกีฬายิมนาสติกไปสร้างผลงานคว้าเหรียญทองอย่างเป็นกอบเป็นกำในการแข่งขันระดับนานาชาติที่ประเทศสิงคโปร์ รวมทั้งได้มีการสร้างนักกีฬาสายเลือดใหม่ด้วยการเฟ้นหาช้างเผือกในสถาบันการศึกษาและโรงเรียนกีฬาต่างจังหวัดจาก 4 ภาคทั่วประเทศ ส่งผลให้มีนักกีฬายิมนาสติกเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกหลายสิบคน
ล่าสุด ดร.สุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เตรียมส่งผู้ฝึกสอนของไทยจำนวน 3 คน ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรระดับ 2 ไปเข้าร่วมอบรมผู้ฝึกสอนขั้นสูงสุด ตามแผนงานของสหพันธ์ยิมนาสติกนานาชาติ หรือ เอฟไอจี. โดยผู้ฝึกสอนยิมนาสติกลีลาที่ถูกส่งไปอบรมครั้งนี้มีเพียง 1 คนได้แก่ น.ส.นันนิชา เสนาชัย ซึ่งการอบรมจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-5 พ.ย. 59 ที่เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่ผู้ฝึกสอนยิมนาสติกส์ศิลป์จำนวน 2 คน ได้แก่ นายอนุชิต แท้สูงเนิน และ น.ส.จิตราภรณ์ รัตนแก้ว โดยมีโปรแกรมจะเข้าร่วมอบรมในระหว่างวันที่ 3-10 ธ.ค. 59 ที่เมืองโดฮา ประเทศการ์ตา
ดร.กุสุมาลย์ ให้เหตุผลว่า เนื่องจากผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คน มีความรู้ ความสามารถ และมีความรับผิดชอบสูงที่สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยให้ความไว้วางใจ โดยหลังจากจบหลักสูตรขั้นสูงสุดแล้ว ทั้ง 3 ท่านจะต้องเป็นวิทยากรไปถ่ายทอดความรู้ ความสามารถ เผยแพร่กฎกติกาแบบใหม่ ให้แก่ผู้ฝึกสอนในสโมสร และ อคาเดมี่ยิมนาสติก ทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อร่วมด้วยช่วยกันในทุกมิติตามแผนพัฒนาของการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยสมาคมตั้งเป้าว่าไม่ควรเกิน 2 ปี ต้องมีผู้ฝึกสอนที่มีความรู้รอบด้าน ผนวกกับการสร้างนักกีฬายิมนาสติกที่มีความสามารถเข้าสู่วงการให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเช่นอดีตอีกครั้ง