ผู้ว่าการ กกท. แสดงความยินดีแก่นักกีฬายิมนาสติก

สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย นำนักกีฬายิมศิลป์ผลงาน 11 เหรียญทองเข้าพบผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย “สกล” ทึ่งไม่คิดว่ายิมไทยจะมีความสามารถขนาดนี้ ยอมลบความคิดที่ว่า “ยิมตายแล้ว” ยินดีให้การสนับสนุนเหมือนเดิม พร้อมกับยืนยันปีหน้าซื้ออุปกรณ์ใหม่ทั้งเซต เพื่อดึงนักกีฬายิมนาสติกทั้งหมดกลับมาซ้อมร่วมกันที่การกีฬาแห่งประเทศไทย

                หลังจากที่นักกีฬายิมนาสติกศิลป์ ทีมชาติไทย เดินทางไปสร้างชื่อเสียงรายการ สิงคโปร์โอเพ่น ยิมนาสติกส์ แชมเปี้ยนชิพ 2016 ระหว่างวันที่ 2-6 มิ.ย. ที่บิสฮาน สปอร์ต ประเทศสิงคโปร์ โดยทำได้ 11 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 7 เหรียญทองแดง จาก ณัฐติพงศ์ เอียดวงศ์ 6 เหรียญทอง,สมภพ สวนดอกไม้ 2 เหรียญทอง ที่เหลือ ด.ญ.ศศิวิมล เมืองพวน,อนุชา พรสิริจรรยา และ วัชรพล พิมพิลา  ได้คนละ 1 เหรียญทอง รวมกับเหรียญเงินและเหรียญทองแดง ซึ่งได้รับกันเกือบทุกคน โดยมี นายวีระพงษ์ บริสุทธิ์สุขกมล เป็นผู้จัดการทีม รวมทั้ง ผู้ฝึกสอนจากประเทศจีน และ เอกราช จันทร์กรุง อดีตนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย นำทีมไปในครั้งนี้

                ล่าสุด น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ได้นำนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าพบ นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อรายงานผลงานและความคืบหน้าเกี่ยวกับการเดินทางไปแข่งขันในครั้งนี้ โดยผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้แสดงความชื่นชมนักกีฬาทุกคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ด้วยการสู้กับนักกีฬายิมนาสติกที่เป็นคู่แข่งในการแข่งในกีฬาซีเกมส์ปีหน้า ยกเว้น เวียดนาม ที่ไม่ได้ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน

                “ 11 เหรียญทองผลงานดีมาก คนที่ทำได้ 6 เหรียญทองถือว่าไม่ธรรมดา ทีแรกผมคิดว่ายิมนาสติกตายไปแล้วเพราะเงียบมาก 3-4 ปีมานี้ไม่มีผลงานเลย การที่ลูกๆ ไปสร้างผลงานกลับมาทำให้รู้สึกภาคภูมิใจ เพราะตลอดเวลาคือผมนี่แหละที่เป็นคนบอกว่า “ยิมนาสติกตายไปแล้ว” จึงได้ตัดออกจากโครงการสปอร์ตฮีโร่ แต่วันนี้ยืนยันว่า ยิมนาสติกยังไม่ตาย ต่อไปนี้สมาคมฯต้องรวบรวมยอดฝีมือกลับมาให้เร็วที่สุด ภายใน 1-2 ปีนี้ต้องรื้อฟื้นกลับมาให้ได้ เพื่อสร้างชื่อเสียงในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ปีหน้าที่ประเทศมาเลเซีย โดยปี 2560 การกีฬาแห่งประเทศไทยจะซื้ออุปกรณ์ยิมนาสติกใหม่ทั้งหมด เพื่อดึงนักกีฬายิมทีมชาติทั้งยิมลีลา และ ยิมศิลป์ กลับมาเก็บตัวฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกกีฬาในร่มของการกีฬาแห่งประเทศไทย มุ่งหวังต้องการให้ใกล้กับศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา, ใกล้กับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ,ให้อยู่ใกล้กับหอพัก และ ใกล้กับคลินิกหมอกายภาพที่ดูแลทางด้านจิตวิทยา และ โภชนาการ”

                นอกจากนี้ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ยังได้กล่าวอีกว่า ซีเกมส์ ปีหน้า เวียดนาม,มาเลเซีย และ สิงคโปร์ รวมทั้งฟิลิปปินส์ เขาเอาแน่ ยิ่งเราสร้างผลงานได้ขนาดนี้เขาต้องระวังเรามากยิ่งขึ้น โดยกลุ่ม 11 เหรียญทองนี้คือกำลังสำคัญ ดังนั้นขอให้สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ต้องเร่งทำแผนให้ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศอย่างเร่งด่วนเพื่อการกีฬาแห่งประเทศไทยจะได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลืออย่างเต็มที่

                ขณะเดียวกัน น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาอาจจะมีการขาดตอนไปบ้าง แต่วันนี้ยิมนาสติกไม่เคยหยุดซ้อม เราทำงานกันหนักมาก แต่เราไม่เคยท้อ ไม่เคยขาดขวัญและกำลังใจ ทั้งนักกีฬาและสต๊าฟฟ์ผู้ฝึกสอนรักกันเป็นปรึกแผ่น สัญญาว่าจะเดินหน้าต่อไปตามนโยบายของการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศชาติ